หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

特寫世界遺産在中國 - สารคดีมรดกโลกของประเทศจีน

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้
 
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้   秦始皇陵墓 หรือสุสานหุ่นทหารและม้าของฉินสื่อหวง   秦始皇兵馬俑 คือฮวงซุ้ยของจักรพรรดิจีนฉินสื่อหวงแห่งราชวงศ์ฉิน ตั้งอยู่ที่เชิงเขาหลีซัน  驪山 ตำบลหลินถง  臨潼區 ห่างออกไปจากเมืองซีอาน   西安市 ของมณฑลส่านซี   陝西省 ประเทศจีน
 
สุสานฉินสื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ  29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง  西陽村 ชื่อหยางจื้อฟา  楊志發 ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ  35 กม.ระหว่างที่ขุดนั้น บังเอิญพบซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า  25,000 ตร.ม.มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานฉินสื่อหวงจะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม.สุสานฉินสื่อหวงได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.2530
 
สุสานฉินสื่อหวงเริ่มก่อสร้างในสมัยฉินสื่อหวง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ  38 ปี ตั้งแต่ปี   246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น  2,180 ตร.กม.แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของฉินสื่อหวง ทรัพย์สมบัติต่างๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของฉินสื่อหวง
 
โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย  35 เมตร กว้าง  145 เมตร และยาว 170 เมตร สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง  15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬารราวกับสนามฟุตบอล 
 
สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้น ยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอาไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น
 
สำหรับข้อความคัดลอกมาจาก :
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุสานจักรพรรดิฉินที่ 1

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 2


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  2
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 3


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  3
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 4


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  4
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 5

v=2lc5pNEPeyg

秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  5
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 6


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  6
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 7


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  7
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 8


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  8
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

秦始皇陵墓 - สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 9 ตอนอวสาน


秦始皇陵墓  -  สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้  9   ตอนอวสาน
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

明清故宮 - พระราชวังต้องห้ามแห่งราชวงศ์ชิง


明清故宮  -  พระราชวังต้องห้ามแห่งราชวงศ์ชิง
 
พระราชวังต้องห้าม  (紫禁城) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงกรุงปักกิ่ง  (北京) เป็นพระราชวังหลวงตั้งแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกันในนาม พิพิธภัณฑ์พระราชวัง   (故宮博物院) ครอบคลุมพื้นที่   720,000 ตารางเมตร อาคาร   800 หลัง มีห้องทั้งหมด  9,999 ห้อง มีพระที่นั่ง  75 องค์ หอพระสมุด ห้องหับต่างๆอีกมาก รวมทั้งยังมีสวน ลานกว้าง ทางเดินเชื่อมต่อกันโดยตลอด มีคูและกำแพงที่สูงถึง  11 เมตรล้อมรอบ ใช้ระยะก่อสร้างประมาณ  14 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.1949 จนถึง พ.ศ.1963
 
พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน  (天安門) นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ ผ่านประตูเทียนอันเหมิน บริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่าอาณาเขตหลวง โดยมีสิ่งก่อสร้างสำคัญอยู่โดยรอบ เช่นมหาศาลาประชาคม 
 
ในอดีต พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ประชาชนเข้า แม้ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาต เป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า  "พระราชวังต้องห้าม" จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ กั้นพระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต เพื่อความสำราญของจักรพรรดิ ในวังจะมีวิเสทหรือผู้ทำกับข้าวในวังหลวง  6,000 คนประกอบพระกระยาหาร มีสนมกำนัล  9,000 นาง มีขันที  70,000 คน คอยดูแล มีคำเล่าลือกันว่า พระนางซูสีไทเฮา เวลาเสวยก็จะมีพระกระยาหารถึง  148 ชุด และทรงส่งขันทีไปเสาะหาชายหนุ่ม ซึ่งเข้าวังแล้วจะไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย สันนิษฐานว่าถูกประหาร เพื่อไม่ให้ความลับแพร่งพราย 
 
แม้ว่าประเทศจีนจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว พระราชวังต้องห้ามก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน และภาพประตูเทียนอันเหมินก็ยังปรากฏอยู่ในตราประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย นอกจากนี้ พระราชวังต้องห้ามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้มีนโยบายจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว เพื่ออนุรักษ์สภาพของอาคารและสวนหย่อมไว้ ยูเนสโกได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเสิ่นหยาง   (清沉陽故宮) เป็นหนึ่งในมรดกโลก ในนามพระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง เมื่อ พ.ศ.2530 (ค.ศ. 1987)
 
สำหรับข้อความคัดลอกมาจาก :
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระราชวังต้องห้าม
รูปภาพของ อาฉี

ความยิ่งใหญ่ภายในพระชวังต้องห้าม

(ขออนุญาตนำภาพดาวเทียม Top view มาเสริม  side view walk ใน VDO เพื่อตามตำแหน่งได้ชัดเจน)

จัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่เคยเห็นกว้างใหญ่ กลับดูเด็กไปเลย เมื่อเที่ยบกับขนาดพระราชวังต้องห้าม

ลอง กด+Zoom ดูจะเห็นนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ


View Larger Map

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

萬里長城 - กำแพงเมืองจีน


萬里長城  -  กำแพงเมืองจีน
กำแพงเมืองจีน  (長城) เป็นกำแพงที่มีป้อมคั่นเป็นช่วงๆของจีนสมัยโบราณ กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบัน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกฮันส์หรือชนเผ่าซยงหนู  (匈奴) คำว่า ซยงหนู บางทีก็สะกดว่าซุงหนูหรือซวงหนู ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอารยธรรมจีนในยุคต้นๆ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว  (周朝)  ราว  400 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากเข้ามารุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ ในสมัยราชวงค์ฉิน ได้สั่งให้สร้างกำแพงหมื่นลี้ตามชายแดน เพื่อป้องกันพวก ซยงหนูเข้ามารุกราน และพวกเติร์ก  (土耳其人) จากทางเหนือ หลังจากนั้นยังมีการสร้างกำแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังมีเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลีย (蒙古) และแมนจูเรีย (滿族) สามารถบุกฝ่ากำแพงเมืองจีนได้สำเร็จ
กำแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่ากำแพงหมื่นลี้  (萬里長城) สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อวันที่   6 มิถุนายน  2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือกำแพงเมืองจีน อย่างเป็นทางการนานร่วม  5 ปี ตั้งแต่ 2008 - 2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า  2 เท่า หรือ  21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่   15 มณฑลทั่วประเทศ และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย มีความเชื่อกันว่า หากมองเมืองจีนจากอวกาศ จะสามารถเห็นกำแพงเมืองจีน ซึ่งในความเป็นจริง ไม่สามารถมองเห็นจากอวกาศได้ 
 



กำแพงเมืองจีนมีด่านสำคัญอยู่สามด่านคือ:
  1. ด่านซันไห่กวน  (山海關) เป็นป้อมประตูหนึ่งของกำแพงเมืองจีน เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ป้องกันกรุงปักกิ่งจากทางทิศเหนือ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว   15 กิโลเมตรจากเมืองฉินฮว๋างต่าว (秦皇島) มณฑลเหอเป่ย (河北省) ห่างจากกรุงปักกิ่ง  (北京) ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด่านแห่งนี้มีคำกล่าวว่าเป็นด่านที่หนึ่งในใต้หล้า   (天下第一關) เทียนเซี่ยตี้อิกกวาน ถูกสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์หมิง เมื่อเทียบกับกำแพงเมืองจีนส่วนอื่นๆ ที่สร้างมาตั้งแต่ก่อนยุคราชวงศ์ฉิน แต่กลับมีบทบาทอย่างมากในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง มีความสำคัญเป็นจุดพลิกผันสถานการณ์ ถึงขั้นเปลี่ยนแผ่นดินเลยทีเดียว 
  2. ด่านปาต้าหลิ่ง (八達嶺長城) ตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่งทางตอนใต้ของอำเภอเอี๋ยนชิ่ง (延慶縣) เป็นกำแพงเมืองจีนที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงค์หมิง ในปี  ค.ศ.1505 เพื่อใช้ในการปกป้องข้าศึกศัตรูเข้ามารุกรานเมืองหลวงปักกิ่งทางตอนเหนือ  อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ  70 กิโลเมตร เป็นด่านที่มีผู้คนนิยมเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด เนื่องจากมีความสวยงามและสะดวกสบาย  สามารถเดินปีนเข้าสู่บริเวณทางขึ้นกำแพงเมืองจีนหรือจะเลือกใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าก็ได้ 
  3. ด่านเจียยี่กวน (嘉峪關) ได้รับการสร้างและออกแบบด้วยการคำนวณมาเป็นอย่างดี โดยผู้ที่คำนวณการก่อสร้างนั้นได้สั่งอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างจำนวนพอดีกับการก่อสร้าง โดยมีเกินมาเพียงก้อนเดียวเท่านั้น ภายในตัวด่านมีลานกว้างสำหรับการประลองยุทธ์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและสำคัญของมณฑลกานซู  (甘肅省)  ปัจจุบันตั้งอยู่ ณ.เมืองเจียยี่กวน มณฑลกานซู ด่านเจียยี่กวนได้ถูกบูรณะครั้งสำคัญ  2 ครั้ง ในสมัยราช วงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง  สองราชวงศ์สุดท้ายในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีน ถือเป็นด่านป้อมปราการสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนทางด้านทิศตะวันตก ที่สุดขอบชายแดนประจบกับชนเผ่ามองโกล ซึ่งสภาพแวดล้อมมีแต่ทะเลทรายเวิ้งว้าง
สำหรับข้อความคัดลอกมาจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี   กำแพงเมืองจีน
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

萬里長城 - กำแพงเมืองจีน ตอนจบ


萬里長城  -  กำแพงเมืองจีน  ตอนจบ
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

峨嵋山-樂山大佛 - เอ๋อเหมยซาน-พระใหญ่เล่อซาน


峨嵋山-樂山大佛  -  เอ๋อเหมยซาน-พระใหญ่เล่อซาน
 
中國佛教四大名山 山西五臺山 浙江普陀山 四川峨嵋山 安徽九華山 其中峨嵋山是 “中國佛教四大名山” 之一
峨嵋山又稱 “大光明山” 位于中國西部四川省的中南部 景色秀麗的山巓上 落成了中國第一座佛教寺院
主峰的最高峰萬佛頂 海拔 3099 米 還有最著名的要屬樂山大佛 它是 8 世紀時人們在一座山巖上雕鑿出來的 佛像身高 71 米 美麗的自然景觀 堪稱世界之最享有 “峨嵋天下秀” 的讚譽
峨嵋山有植物種類豐富繁多 有些樹木樹齡已逾千年 還有多種稀動物的栖居地
 
ในประเทศจีนมีวัดพุทธบนยอดเขาอยู่สี่สถานที่ เขาอู่ถายที่ซานซี เขาปู่ถอซานที่เจ้อเจียง เขาเอ๋อเหมยที่ส่านซีหรือเสฉวน เขาจิ่วหัวที่อานอุย และเขาเอ๋อเหมยก็เป็นหนึ่งในนั้น
เอ๋อเหมยซานยังมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าต้ากวางหมิงซาน อยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศจีนและอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมลฑลเสฉวน มียอดเขาทิวทัศน์ที่สวยงาม นับเป็นวัดพุทธหลังแรกที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ของประเทศจีน
ยอดเขาสูงสุดที่เรียกว่าว่านฝอติ่ง มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3099 เมตร ทั้งยังมีสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตมโหฬารคือพระพุทธรูปตงซานต้าฝออันมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้วย พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่   8 โดยการแกะสลักบนภูเขาทั้งลูก ความสูง 71 เมตร อาจเรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลก มีความสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ จนได้รับการยกย่องว่าเอ๋อเหมยเป็นยอดเขาที่สวยที่สุดในปฐพี
เอ๋อเหมยซานมีทรัพยากรธรรมชาติทางพืชพฤกษามากมายหลากหลาย ต้นไม้บางต้นมีอายุยืนยาวกว่าพันปีทีเดียว ทั้งยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าต่างๆมากมายที่หายากอีกด้วย
 
_____________________________________________
 
ใครที่เคยอ่านหนังสือกำลังภายในเรื่องมังกรหยก ต้องรู้จักสำนักง้อไบ๊ซัวอันโด่งดัง ที่มีก๊วยเซียงลูกของก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งเป็นปฐมปรมาจารย์ ตั้งสำนักอยู่ที่ยอดเขาเอ๋อเหมยซานนี่เอง เหตุที่ก๊วยเซียงต้องขึ้นเขาตั้งสำนัก เป็นเพราะอกหักรักคุดที่พลาดหวังจากคนที่ตนรัก เป็นสำนักที่มีการฝึกวิทยายุทธควบคู่กับการสวดมนต์ทำวัตรนั่งสมาธิ มีผู้ประสงค์เข้าบวชเป็นจำนวนมาก วิทยายุทธที่ฝึกสอนมีทั้งพลังภายใน กระบี่ ฝ่ามือ หมัดมวยเป็นหลัก มีชื่อเสียงมากในโลกยุทธจักร
 
ประเทศจีนมีภูเขาที่สวยงามอยู่มากมาย ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีนมีอยู่ห้าแห่ง (中國五有名山峰) คือ
ทางเหนือเขาเหิงซาน  (北嶽恒山) อยู่ที่มณฑลซานซี (山西省)
ทางใต้เขาเหิงซาน  (南嶽衡山) อยู่ที่มณฑลหูหนาน (湖南省)
ทางตะวันออกเขาไท้ซาน  (東嶽泰山) อยู่ที่มณฑลซานตง (山東省)
ทางตะวันตกเขาหัวซาน  (西嶽華山) อยู่ที่มณฑลส่านซี (陝西省)
ทางภาคกลางเขาซงซาน  (中嶽嵩山) อยู่ที่มณฑลเหอหนาน (河南省)
 
นอกจากนี้ยังมีภูเขาจตุรมหาพุทธาบรรพตที่ศักดิ์สิทธิ์ (四大佛教名山)ประกอบด้วย  
ปู่ถอซาน  (普陀山) อยู่ในมณฑลเจ้อเจียง  (浙江)
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่บำเพ็ญของกวนอินผูซ่า  (觀音菩薩) 
 
เอ๋อเหมยซาน  (峨嵋山) อยู่ที่มณฑลซื่อชวนหรือเสฉวน  (四川) 
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่บำเพ็ญของปู่เสียนผูซ่า  (普賢菩薩)
 
อู่ถายซาน  (五臺山) อยู่ที่มณฑลซานซี  (山西) 
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่บำเพ็ญของเหวินซูผูซ่า  (文殊菩薩)
 
จิ่วหัวซาน  (九華山) อยู่ที่มณฑลอันฮุย  (安徽) 
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่บำเพ็ญของตี้จั้งหวังผูซ่า  (地藏王菩薩)
 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal